Mind Map กับ Global Art เกี่ยวกันตรงไหน ????

ตัวอย่าง Mind Map อันนี้เกีี่ยวกับภาวะโลกร้อน สังเกตุอะไรในภาพมั้ยค่ะ แต่ละกิ่งก้านสาขาที่ออกมานั้น มีรูปเล็กๆอยุ่เต็มไปหมด กวาดตามองก็เข้าใจทันทีว่าคืออะไร ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายเลยนะคะที่จะวาดออกมาให้เข้าใจได้อย่างนั้น

หลายต่อหลายครั้ง การวาดรูปของเด็กไม่ใช้ก่ารวาดที่ดูสมจริงไปเสียทุกครั้งนะคะ การวาดให้สื่อสารได้นั้นจากประสบการณ์การสอน แทบไม่ต้องใช้รูปต้นแบบให้เด็กคัดลอกเลย ยกตัวอย่างเช่น เวลาเด็กๆอยากวาดยีราฟสักตัวหนึ่งนั้น คุณครูจะถามเด็กๆก่อนเสมอว่า "หนูจำอะไรได้เกี่ยวกับยีราฟบ้าง??" หรือไม่ก็คำถาม "หนูเคยเห็นยีราฟจากหนังสือ มันน่ารัก หรือน่าดูที่ตรงไหน????" คำถามที่อ้อมไปมาอย่างนี้แหล่ะคะ เป็นการเปิดประเด็นที่ช่วยกระตุ้นความจำของหนูๆทั้งหลายได้ดีมาก เมื่อได้คำถาม ภาพในสมองที่เด็กๆเคยจดจำได้ จะค่อยๆผุดขึ้นมาทีละเล็กละน้อย จาก คอยาว ก็เป็น ลวดลายบนตัว ขายาว แต่สั้นกว่าความยาวคอ หน้าแหลมๆเหมือนม้า มีเขาสั้นๆด้วย แต่ไม่แข็งเหมือนวัวนะ จมูกเหมือนม้า มีขนสั้นๆ เป็นต้น

ทีนี้เมื่อได้ภาพในความจำ ถึงจะให้เด็กๆร่างออกมาเป็นภาพที่ละส่วนจนได้ออกมาเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับยีราฟมากที่สุด ทักษะเหล่านี้ถ้ามาประกอบกับการเขียน mind map จะพบได้ว่า ทันทีที่เด็กเขียนเสร็จ สิ่งทั้งหมดจะถูกจดจำไปเป็นภาษาภาพ ซึ่งเป็นสิ่งง่ายต่อการทำความเข้าใจในหัวข้อนั้นๆนั่นเองค่ะ

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราเรียนวาดรูปจาก Global Art ไปเพียงเพื่อแค่ทำ Mind Map หรอกนะคะ ในหลายครั้งทีเดียวที่เด็กคิดไม่ออกเอาเสียเลยก่อนการวาดภาพ ครูก็ต้องงัดเอาวิธีการแตกแขนงของก้านความคิดออกมา แล้วให้เด็กเลือกเพียงก้านใดก้านหนึ่งของสิ่งที่ตัวเองสนใจ หรือมั่นใจต่อการนำเสนอให้มากที่สุด นำมาประกอบการวาด และบรรยาภาพอีกต่อหนึ่งค่ะ

เห็นมั้ยค่ะการสอนศิลปะในเชิงสร้างสรรค์ ไม่ได้จบลงที่การวาดรูปสวยหรอกนะคะ กระบวนการกว่าจะมาเป็นผลลัพธ์นี่สิ สำคัญกว่าเป็นไหนๆ ไว้มีโอกาสจะนำเสนอเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ต่อวิธีการตั้งคำถามเพื่อการกระตุ้นเด็กๆกันนะคะ มีเคล็ดลับที่ง่ายมาก ไว้จะนำมาเล่าสู่กันฟังในภายหลังค่ะ